ทนายความคนดังถูกกล่าวหาว่าช่อโกงเงินลูกความจำนวน 71 ล้านบาท ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติยศของวิชาชีพทนายความ สภาทนายความเตรียมพิจารณากรณีการกระทำที่ไม่เหมาะสมของทนายความคนดัง โดยอาจเข้าข่ายความผิดตามข้อบังคับ ทนายอั๋นระบุว่าการกล่าวหานี้ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของทนายความและองค์กร มีการเรียกร้องให้มีการสอบสวนกรณีนี้อย่างเร่งด่วน เนื่องจากประชาชนให้ความสนใจ ทนายความสามารถกล่าวหาและปกป้องวิชาชีพของตนเองได้ โดยเฉพาะในกรณีที่มีการกระทำผิดเกิดขึ้น
ในเดือนกันยายน 1957 มีคนจากสวนสัตว์ลินคอล์นพาร์ก นำงูเด็กยาว 30 นิ้วมาที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติชิคาโก เพื่อขอความช่วยเหลือในการระบุชนิดของงูตัวนี้ คาร์ล แพตเตอร์สัน ชมิดต์ นักวิทยาการสัตว์เลื้อยคลานที่ทำงานอยู่ที่นั่นอาสาเป็นผู้ดูแลงูตัวนี้ เขาเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านงูที่มีชื่อเสียงที่สุด และประสบความสำเร็จมากมายจนมีงูมากกว่า 200 สายพันธุ์ที่ตั้งชื่อตามเขา ชมิดต์สังเกตว่า งูตัวนี้เป็นงูแอฟริกันที่มีลวดลายสดใสและมีรูปทรงศีรษะที่คล้ายกับงูบูมแสลง ซึ่งเป็นงูพิษจากแอฟริกาใต้สะฮารา แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่ามันเป็นงูบูมสแลงจริงหรือไม่ เนื่องจากอวัยวะบางอย่างยังไม่ชัดเจน วันที่ 25 กันยายน…
มาดามอ้อยเปิดใจครั้งแรกเกี่ยวกับคดี 71 ล้าน หลังเดินทางกลับจากฝรั่งเศส เธอระบุว่าได้จ่ายเงิน 300,000 บาทให้ทนายตั้ม แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือใด ๆ ทนายตั้มถูกกล่าวหาว่าพาครอบครัวไปฝรั่งเศสโดยใช้ค่าใช้จ่ายจากมาดามอ้อย มาดามอ้อยยืนยันว่าไม่เคยเปิดมูลนิธิที่ทนายตั้มเสนอ เนื่องจากไม่มั่นใจในเส้นทางการเงิน ตำรวจยืนยันว่าคดีนี้อยู่ในความดูแลของกองปราบปราม และจะสอบสวนอย่างละเอียดเพื่อความเป็นธรรมทุกฝ่าย
ทนายวิทูรเผยจะมีการแจ้งจับแม่ทีมที่เกี่ยวข้องกับคดี โดยมีการระบุชื่อ 5 คนที่เป็นผู้ต้องหาใหม่ ผู้ต้องหารายที่ 19 คือคุณทินภัทร ตามคำให้การของทนายวิทูร คุณลูกตาลและคุณกบไมโครถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่ข่ายหลักในคดีนี้ ทนายวิทูรเตรียมยื่นประกันตัวบอสพอในสัปดาห์หน้า ขณะที่คดีถูกโอนให้ DSI มีการเปิดเผยว่าผู้เสียหายมีจำนวนมากถึง 2,000 ราย และจะมีการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจาก DSI
ทนายตั้มถูกกล่าวหาว่าช่อโกงเงิน 71 ล้านบาทจากเจ๊อ้อย โดยอ้างว่าเป็นการลงทุนในแพลตฟอร์มหวยออนไลน์ เจ๊อ้อยยืนยันว่าเงินที่โอนให้ทนายตั้มไม่ใช่การให้โดยเสน่หา แต่เป็นการลงทุนที่ไม่ได้รับการดำเนินการตามสัญญา ทนายตั้มชี้แจงว่าเงิน 71 ล้านบาทมาจากลูกความที่เป็นมหาเศรษฐีในต่างประเทศ และมีการวางแผนเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี คดีนี้ถูกโอนจาก สภ.ปากช่อง มาที่กองปราบปราม เพื่อการสอบสวนที่มีความทันสมัยและรวดเร็วมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีชี้ว่า หากเงิน 71 ล้านบาทถูกให้โดยเสน่หา จะต้องเสียภาษีเพียง 5% แต่หากเป็นการลงทุนจะต้องเสียภาษีมากกว่านั้น
ทนายตั้มยังไม่ถูกตัดสินผิดในคดีฉ้อโกง 71 ล้าน แม้ว่ามาดามอ้อยได้แจ้งความดำเนินคดีแล้ว มาดามอ้อยเปิดเผยว่าเธอรู้จักทนายตั้มจากคดีหวย 30 ล้านและได้จ้างเขาเป็นที่ปรึกษาในธุรกิจ ทนายตั้มเคยขอให้มาดามอ้อยรับลูกชายของเขาเป็นลูกบุญธรรม แต่ถูกปฏิเสธเนื่องจากลูกชายไม่เห็นด้วย มาดามอ้อยยืนยันว่าเธอไม่ติดใจในเงิน 39 ล้านที่ให้ทนายตั้ม แต่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้เงิน 71 ล้าน ตำรวจยืนยันว่าการสอบสวนคดีนี้จะดำเนินการอย่างละเอียดและเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
เด็กหนุ่มอัจฉริยะวัย 17 ปี สร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่บ้านแม่ จนเกิดการรั่วไหลของรังสี เดวิดเริ่มสนใจวิทยาศาสตร์ตั้งแต่อายุ 10 ปี หลังจากอ่านหนังสือเกี่ยวกับการทดลองเคมี เขาใช้เงินกว่า 1,000 เหรียญในการซื้ออุปกรณ์และวัตถุดิบ รวมถึงแร่ยูเรเนียมจากเชคโกสโลวาเกีย เมื่อเครื่องปฏิกรณ์ถูกตรวจพบว่ามีรังสีสูงกว่าปกติ 1,000 เท่า เจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาตรวจสอบและทำความสะอาดพื้นที่ เดวิดถูกจับในข้อหาพยายามลักทรัพย์และมีปัญหาสุขภาพจิต ก่อนเสียชีวิตในปี 2016 จากภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษ
เรียกได้ว่าเป็นมหากาพย์ดรามาครั้งใหญ่สำหรับ กรณีทนายความชื่อดังที่ถูกเจ๊อ้อยออกมาแฉ และดำเนินคดีโกงเงิน 71 ล้านบาท และงานนี้เหมือนจะไม่จบลงง่าย เพราะล่าสุด เจ๊หนึ่ง บางปู ได้ออกมาเปิดใจว่าตนเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย โดนเรียกเงินไปกว่า 10 ล้านบาทเช่นกัน แต่ทำงานเหมือน 2 แสนบาท คดีความไม่คืบไม่หน่ำซ้ำทนายดังดันออกรถหรู มูลค่ากว่า 9 ล้าน ทำเอาเจ้าตัวมั่นใจว่าเป็นเงิน 10 ล้านบาทของตนแน่นอนที่นำไปเสวยสุข…
ร้องเรียน ปปง. ตรวจสอบที่มาเงิน 71 ล้านบาทของทนายสิธา เบี้ยบังเกิด ทนายสิธาเป็นสมาชิกวุฒิสภาสำรองอันดับที่ 4 และเลขาธิการมูลนิธิทนายความเพื่อประชาชน ประเด็นที่ตรวจสอบรวมถึงการจ่ายภาษีและความถูกต้องตามกฎหมายของเงิน มีการยอมรับจากทั้งสองฝ่ายว่าเงิน 71 ล้านบาทมีอยู่จริง การตรวจสอบจะพิจารณาว่าเงินดังกล่าวมาจากเสน่หาหรือกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตำรวจในเมืองเอสโปของฟินแลนด์ได้ใช้กลยุทธ์ที่น่าสนใจเพื่อป้องกันไม่ให้เยาวชนไปมั่วสุมปาร์ตี้บนชายหาดท้องถิ่น ด้วยการเปิดเพลงคลาสสิกเสียงดังผ่านลำโพง ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่แสดงว่าคนหนุ่มสาวเกลียดดนตรีคลาสสิก แต่ตำรวจในเมืองเอสโปยืนยันว่ามันได้ผล และพวกเขาก็พิสูจน์ทฤษฎีนี้มานานกว่า 6 ปีแล้ว ในช่วงปิดภาคเรียน ชายหาดในย่าน Haukilathi ของเมืองเอสโป ได้กลายเป็นสถานที่พบปะยอดนิยมสำหรับเยาวชนที่ต้องการปาร์ตี้กันจนดึกดื่น เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้ทดลองใช้วิธีต่าง ๆ มากมายเพื่อขับไล่วัยรุ่นเหล่านี้ แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีอะไรได้ผลดีเท่ากับการเปิดผลงานดนตรีคลาสสิกชิ้นเอก เช่น The Blue Danube ของ โยฮัน…